บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

PAKAVAKORN เตรียมหนี


มีแฟนคลับของผมท่านหนึ่ง นำหนังสือของหลวงพ่อวัดปากน้ำกับหนังสือของคุณลุงที่เป็น E-book ไปเผยแพร่ไว้ที่พันธุ์ทิพย์ โดยตั้งชื่อกระทู้ว่า “Link E-book วิชาธรรมกาย

เนื้อหาของกระทู้ก็มีสั้นๆ ดังนี้

เชิญทุกท่านได้อ่าน E-book วิชาธรรมกาย ตั้งแต่ขั้นเบื้องต้นจนถึงขั้นสูงมาก ได้ที่ :

https://www.dropbox.com/sh/160475x745y9rag/E8VnSnvIzz

สามารถดาวน์โหลดได้  อนุโมทนากับทุกท่านที่ได้อ่านครับ

พอลงไปแล้ว มีคนมาให้ความเห็นกันพอสมควร พอที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้เป็นประวัติศาสตร์ได้  ผมได้วิพากษ์ไปแล้ว สามบทความ  บทความนี้ก็ว่ากันต่อ

ในบทความที่แล้ว  ผมได้วิพากษ์วิจารณ์ความเห็นของ คุณ ABP@BDZ ไปแล้ว  ความคิดเห็นต่อมาเป็นของคุณ PAKAVAKORN ซึ่งมาให้ความเห็นสนับสนุนความเห็นของคุณ ABP@BDZ ดังนี้

เห็นด้วยกับความเห็น 7 เรื่อง นายการุณย์ รับไม่ได้จริงๆ เรื่องพระพุทธเจ้า โดนมารกักขัง ล่ามโซ่  จนตัวเองต้องไปช่วย ออกมา

เพี้ยน สุด  แม่ชีที่ได้ธรรมกายชั้นสูง ท่านก้อเตือนว่าอย่าไปยุ่ง เด๋ว เพี้ยน 

ไม่ใช่โดนขังพระองค์เดียวนะ  ตั้งหลายพระองค์  ไปแต่งนิยาย เหอะแย่

ท่านเจ้าของกระทู้ก็ความคิดเห็นของคุณ PAKAVAKORN ดังนี้

อยากจะได้รายละเอียดของความเห็นที่ 9 ดังนี้

คุณลุงการุณย์รับหน้าที่ปราบมารมาจากหลวงพ่อวัดปากน้ำ  จึงทำหน้าที่ต่อ หลักฐานก็คือ หนังสือปราบมาร จำนวน 6 เล่ม และบันทึกปราบมารจำนวน 31 เล่ม (บันทึกเหล่านี้ ลูกศิษย์ใกล้ชิดได้อ่าน)

คุณลุงไปพบเหตุการณ์ในอายตนะนิพพาน จึงนำมาเผยแพร่  และมีหลักฐานดังกล่าว

คุณความเห็นที่ 9 ได้ทำวิชาธรรมกาย และเข้าไปในนิพพานใช่หรือไม่  และได้ไปพบกับพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าปฏิเสธว่า หนังสือที่คุณลุงเขียนผิด ใช่หรือไม่

หรือว่า คุณความเห็นที่ 9 ไม่มีวิชาธรรมกายใดๆ ไม่เคยเรียน หรือเรียนแล้วไม่ได้ผล  จึงเขียนไปตามความเชื่อของตนเอง

ในกรณีนี้ อยากจะเสนอแนะแนวคิดที่ว่า

ในทางวิชาการของโลก มีความรู้ใหม่ๆ ขึ้นมาตลอดเวลา  โลกก็เจริญขึ้น

ตามความเห็นที่ 9 ท่านหมายถึงว่า ความรู้ในทางธรรมนั้น สิ้นสุดแล้ว ตันแล้ว ไม่มีทางวิชาจะพัฒนาต่อยอดขึ้นไปได้ ใช่หรือไม่..

ในกรณีนี้ ท่านผู้เขียนมีความรู้ในทางธรรมในระดับใด  ถ้าเก่งจริง อยากจะสนับสนุนให้ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์  เพื่อเผยแพร่แนวคิดของท่านให้ไปทั้งโลก

คำตอบของท่านเจ้าของกระทู้ถือว่าเข้าหลักวิชาการเลยทีเดียว  คือ การที่เราจะไปตัดสินว่า “อะไรผิด” หรือ “ใครสอนผิด” นั้น  เราต้องมีความรู้มากพอสมควร คือ มากพอๆ กับคนที่เราจะไปวิจารณ์

นักวิชาการหรือนักวิทยาศาสตร์ ถ้าไปถามท่านเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ นอกสาขาของท่าน ท่านจะบอกเลยว่า “ไม่รู้” หรอกครับ ไม่ได้ศึกษามาในทางนั้น 

ขนาดในสาขาเดียวกัน แต่แขนงวิชาอื่น ท่านยังแบ่งรับแบ่งสู้เลย เพราะ ถ้าไม่รู้จริงๆ จะไปฟันธงว่าผิด ว่าถูกไม่ได้

แล้ว คุณ PAKAVAKORN  แกมีความรู้ในระดับไหน ถึงจะกล้าไปตัดสินว่า คุณลุงสอนผิด

อย่างไรก็ดี คุณ PAKAVAKORN แกใจสู้กว่า คุณ ABP@BDZ ที่หนีหายไปจากวงการเลย  แกเข้ามาให้ความเห็นต่ออีกว่า

ผมไม่ใช่พวกคุณนะ จะได้ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์ แล้วก้อสอนคนอย่างผิดๆ มิจฉาทิฐิมาแรงนะ 

มีแต่สมถะที่พิศดารได้ไม่รู้จบสิ้น  จขกท  คงไม่เคยสักครั้ง ที่ประสบผลจากการฝึกฝนทางวิปัสสนา มาบ้าง

จะพูดคิดทำ อะไร นึกถึงธรรมของพระพุทธเจ้าบ้างนะคับ ท่านประเสริฐ จนนายการุณย์เข้าไม่ถึงท่านหรอกคับ  นอกจากจะ มโนเอาเอง

แม้กระทั่ง จิตผู้รู้ ผมว่าพวกคุณ ยังไม่เคยประสบเลยด้วยซ้ำ

อ้อ แนะนำว่า เก็บ หนังสือพวกนี้ ให้ สำนักของคุณดูก้อพอแล้ว  ไม่ต้องเผื่อแผ่หรอกคับ บาปเปล่าๆ

คุณ PAKAVAKORN ยังไม่รู้ตัวเลยว่า ท่านเจ้าของกระทู้เขาด่าทางอ้อมว่า มีความรู้ในระดับเกจิอาจารย์หรือไม่  ดันทะลึ่งรับมุขอีก  แล้วก็เริ่มเพ้อไปทางวิปัสสนากรรมฐาน

ท่านเจ้าของกระทู้ก็ตอบมาอีกที ดังนี้

อยากจะให้คุณ PAKAVAKORN ช่วยบอกรายละเอียดสักนิดว่า "คำสอนของคุณลุงการุณย์ บุญมานุช" นั้น ผิดอย่างไร ผิดจากพระไตรปิฎกเล่มไหน อย่างไร

สำหรับหนังสือนั้น มีคนมาขออ่านเป็นจำนวนมาก ผมจึงอำนวยความสะดวกให้อีกทางหนึ่ง

ผมยังยืนยันว่า หนังสือของคุณลุงการุณย์ ซึ่งขยายความของหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น ตรงตามพระไตรปิฎกทุกตัวอักษร

คุณ PAKAVAKORN เห็นว่า เนื้อหาหน้าไหนไม่ตรง ผิดอย่างไรก็บอกมาเลย  ทางผมจะได้ไปหาคำตอบมาให้

บอกว่า "ผิด" แต่ไม่อธิบายว่า "ผิดอย่างไร" ทางผมก็ตอบไม่ถูก

คุณ PAKAVAKORN ยังใจดีสู้เสือ หลังจากหายไป 3 วัน คงจะไปเลียแผลมา และมาให้ความเห็นอีกครั้งว่า

http://pantip.com/topic/30083695

เท่าที่ยกมานี่ ก้อเพียงพอแล้วที่คนปกติทั่วไปน่าจะเอะใจบ้างว่า ธรรมของพระพุทธเจ้าตื้นเขิน ขนาดนั้นหรือ

บารมีพระองค์ ที่บำเพ็ญเพียรมา ทั้งมหาสติ มหาปัญญา มหากรุณา ไม่ใช่ไปกำจัดมารภายนอกที่ไหน แต่ใช้จัดการกับมารภายใน ซึ่งก็คือกิเลส ที่มาห่อหุ้มใจ

ธรรมที่นาย การุณย์สอน ขาดสัมปชัญญะ คือ ขาดความรู้ตัว ไม่เคยเลย ที่จะเห็น นิมิตเป็นเพียงสภาวธรรมอันหนึ่ง ซึ่งสามารถ เกิด และ ก้อดับได้

จิตจะไหลเข้าไปในดวงนิมิตตลอดเวลา หลง ไปในดวง หรือ รูปนิมิต ตลอด  มีแต่ จิตผู้หลง ไม่เคยมี จิตผู้รู้ จิตสร้างภพ ก้อ ไม่รู้ว่า จิตสร้างภพ จัดเป็น สังขารธรรม อย่างหนึ่ง มีแต่การ ปรุงแต่งของจิตตลอดเวลา

อีกทั้งยังดูหมิ่น การปฏิบัติ สายอื่นอีก  ที่สำคัญยังสำคัญตัวผิดว่ามีบารมี ถึงขนาดไปช่วยพระพุทธเจ้า หลายพระองค์จากมาร รับไม่ได้จริงๆ

กรรมที่ ดูหมิ่น บารมี มหาสติ มหาปัญญา ของพระพุทธเจ้า ถึงแม้จะรู้เท่าถึงการณ์ หรือ ไม่ก้อตาม  ผมไม่อยากคิดเลย ว่านอกเหนือ จะเป็นมิจฉาทิษฐิ ปัญญาวิบัติแล้ว จะมีอกุศลกรรมใดอีก ที่จะได้รับ

ธรรมของพระพุทธเจ้า  ถูกเปลี่ยนแปลง สภาวไปหมด ธรรมนั้นก้อไม่ใช่ธรรมอันบริสุทธ์ของพระพุทธเจ้า แล้วละคับ

ผมคงไม่เข้ามาตอบอีก  ขอให้ โชคดีนะคับ

เท่าที่ผมติดตามอ่านการเสวนาในครั้งนี้มา ผมชักจะเริ่มนับถือความใจถึงของคุณ PAKAVAKORN บ้างแล้ว  แต่พอมาพบข้อความสุดท้ายก็สุดเซ็ง

เถียงกับเขายังไม่ทันไร ยกผ้าขาวยอมแพ้เสียแล้ว

ลิงก์ที่ คุณ PAKAVAKORN ให้ไปอ่านนั้น  ผมก็ไปอ่านมาแล้ว ก็เป็นกระทู้ที่ คุณ PAKAVAKORN โจมตีคุณลุงการุณย์ บุญมานุชไว้

ไม่รู้ว่า ลูกศิษย์คุณลุงได้อ่านกันบ้างหรือเปล่า  แต่ถ้าอ่านก็คงไม่มีใครไปโต้แย้งในนั้น เพราะ คุณลุงห้ามไว้

อย่างไรก็ดี  คุณ PAKAVAKORN แกก็สมองหมา ปัญญาควายอีกคนหนึ่งเท่านั้น สันนิษฐานว่า แกไปอ่านของคนอื่นเขามา  ก็เอามาเขียนต่อ แบบอยากได้หน้า

พอใจบอกว่า “ผิดตรงไหน” และ “ผิดอย่างไร” ก็ไปไม่เป็น เพราะ ไม่รู้จะอธิบายให้เหตุผลอย่างไร

โง่แบบนี้ นอนอยู่กับบ้านเงียบๆ ก็ดีแล้ว......... ทะลึ่งมาแสดงความโง่ในที่สาธารณะอีก กรรมของคุณ PAKAVAKORN ไม่ได้มีแค่นั้น ซึ่งจะอธิบายต่อไปในบทความสุดท้าย...



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น